หลังจากโปรแกรมการแข่งขันในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาล 2022/23 ได้พักทำการแข่งขัน เนื่องจากมีรายการ ฟุตบอลโลก 2022 เข้ามาคั่นในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม ทำให้ลีกแดนมักกะโรนีพักกันยาวๆ จนถึงช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้ากันเลยทีเดียว ซึ่งช่วงนี้ก็จะได้รับชมบอลโลกกันไปก่อน แต่ทีมงาน TheJuventus ก็ได้ตั้งใจเสนอคอนเท้นต์ดีๆ มาฝากสายนักอ่านแฟนบอลทีมนี้กันเรื่อยๆ โดยจะอิงกับกระแสฟุตบอลโลก โดยการ รวบรวมแข้งของ ยูเวนตุส ที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศ กาต้าร์ ว่าจะเป็นใครกันบ้างและมีประวัติที่น่าสนใจคร่าวๆ อย่างไร รวมถึงผลงานของแข้งแต่ละรายเป็นอย่างไรกันบ้าง
ยูเวนตุส นักเตะรายไหนได้ไปลุยบอลโลก 2022 กันบ้าง
“ม้าลาย” มีแข้งชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ 27 รายด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายรายที่ได้ไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก และ มีหลายรายเช่นกันที่อดไป มาดูรายชื่อกันก่อนว่า 27 ราย จะมีแข้งรายไหนกันบ้าง
วอจเนียค เชสนี่ย์
มัตเตีย เปริน
คาร์โล ปินโซกลิโอ
เบรเมอร์
เฟเดริโก้ กัตติ
เลโอนาร์โด โบนุชชี่
ดานิเล่ รูกานี่
มัตเตีย เด ชีโญ่
อเล็กซ์ ซานโดร
ดานิโล่
มานูเอล โลคาเตลลี่
เลอันโดร ปาเรเดส
ปอล ป็อกมา
เวสตัน แม็คเคนนี่
อาเดรียง ราบิโอต์
ฟาบิโอ มิเร็ตติ
นิโคโล่ ฟากิโอลี่
ฮวน กวาดราโด้
ฟิลิป คอสติช
มาร์เล่ย์ อาเก้
เฟเดริโก เคียซ่า
อังเคล ดิ มาเรีย
มาธิอัส ซูเล่
ดูซาน วลาโฮวิช
มอยเซ่ คีน
อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค
ไคโอ จอร์เก้
นักเตะที่ได้ไปบอลโลก 2022 และข้อมูลที่น่าสนใจ
มาดูกันว่า แข้งของ ยูเวนตุส จะมีแข้งรายไหนได้ติดทัพลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 กันบ้าง และ แข้งจากชาติไหน ได้ติดทีมไปด้วยกันที่ประเทศกาต้าร์ได้มากที่สุด
ทีมชาติโปแลนด์
วอจเนียค เชสนี่ย์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมและของทีมชาติโปแลนด์ เขาลงสนามเฝ้าเสาให้กับทีมชาติบ้านเกิดไปแล้ว 67 นัด
แน่นอนว่าเขาเป็นตัวหลักของชาติอย่างไม่ต้องสงสัยในวัย 32 ปีเข้าไปแล้ว แถมเจ้าตัวถ้าไม่เจออาการบาดเจ็บก็จะยึดเป็นมือหนึ่งของชาติและสโมสรแบบยาวๆ
ส่วนผลงานฟุตบอลโลก 2022 เขาได้ลงเฝ้าเสาลงสนาม 4 นัด พาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เสียประตูไป 4 ลูก เก็บคลีนชีทได้ 2 นัด
อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค กองหน้ารูปร่างกำลังดี สัญชาติโปแลนด์ ติดทีมชาติไปแล้วถึง 65 นัด ยิงไปแล้ว 16 ประตู โดยฤดูกาลนี้ เขาทำผลงานได้เข้าตากับสโมสร ทำให้ติดทีมชาติอย่างไม่ต้องสงสัย จะเป็นแข้งคนสำคัญในแนวรุกอย่างแน่นอน
ส่วนผลงานฟุตบอลโลก 2022 กองหน้ารายนี้กลับไม่สามารถยิงประตูได้เลย ลงสนาม 3 นัด ยิงไม่ได้สักประตูเลย แถมฟอร์มไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่
ทีมชาติบราซิล
เบรเมอร์ กองหลังชาวบราซิเลี่ยน วัย 25 ปี แน่นอนว่าการย้ายมาอยู่กับ “ม้าลาย” ในฤดูกาลนี้ แถมย้ายมาจาก โตริโน่ อริตลอดกาลร่วมเมืองอีกด้วย ทำให้เจ้าตัวพัฒนาฝีเท้าไปมาก และติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่อีกด้วย
โดยเขาได้ลงสนาม 2 นัดด้วยกัน แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรทีมมากนัก แต่แน่นอนว่าเขาเป็นกองหลังอนาคตของชาติอย่างไม่ต้องสงสัย
อเล็กซ์ ซานโดร กองหลังตำแหน่งแบ็คซ้ายชาวบราซิเลี่ยน ที่อายุอานามก็ 31 ปี ไปแล้ว ถือว่าเขาโชคดีเหลือเกินที่ติดทีมชาติในยุคที่ตำแหน่ง แบ็คซ้ายและแบ็คขวา ขาดแคลนอย่างหนัก โดยลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 3 นัด แต่ฟอร์มไม่โดดเด่นตามคาด
ต่อมาที่ ดานิโล่ กองหลังสาระพัดประโยชน์ในวัย 31 ปี ซึ่งประจำการแบ็คขวา แต่ก็ยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คได้อีกด้วย โดยคาดว่าเขาจะมีโอกาสลงสนามแน่นอน เพราะการเล่นที่แสนเอนกประสงค์ของเขานั่นเอง ลงสนาม 3 นัด ก็ไม่ได้ช่วยอะไรทีมชาติเลยสักนิด แถมมีส่วนทำให้ทีมเสียประตูจากการเติมสูงของเขา
สรุปว่าทีมชาติบราซิล มีแข้ง “ม้าลาย” ส่งเข้าประกวดจำนวน 3 รายด้วยกัน เรียกว่าน่าจะเป็นกำลังสำคัญในแนวรับอย่างแน่นอน ทั้ง แบ็คซ้าย, แบ็คขวา และ กองหลังตัวกลาง แต่ก็แอบเสียวเหลือเกินว่าสามรายนี้ จะแจกโชคเหมือนที่เคยทำพลาดกับสโมสรหรือไม่ ซึ่งอย่างที่ทราบกัน แบ็คสองรายโชว์ฟอร์มไม่ดีเอาเสียเลย
ทีมชาติอาร์เจนติน่า
เริ่มจาก เลอันโดร ปาเรเดส กองกลางที่ยืมตัวมาจาก “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล ซึ่งกองกลางรายนี้โชว์ฟอร์มในสนามให้กับยอดทีมจากเมืองตูรินได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
แต่ทว่าผลงานในทีมชาติเขายังเล่นทรงๆ ทรุดๆ แต่ก็เป็นตัวหลักของทีม ลงเล่นไปแล้ว 4 นัด ทำได้ 1 แอสซิสต์ มีส่วนพาทีมเข้าสู่รอบชนะเลิศได้สำเร็จ
อังเคล ดิ มาเรีย ยอดปีกที่ยังค้าแข้งอยู่ในวัย 34 ปี โดยเจ้าตัวเป็นแข้งซีเนียร์ของสโมสรและของชาติ เป็นแข้งที่พกประสบการณ์มาอย่างเต็มเปี่ยม
โดยเวทีนี้ เขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ชาติบ้านเกิดเป็นแชมป์โลก หลังจากมีส่วนช่วยพาชาติได้แชมป์ โกปา อเมริกา มาครองไปก่อนหน้านี้แล้ว และบอลโลกครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายของเขาแล้วด้วย แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บและความฟิตที่ไม่คงที่ ทำให้เขาลงสนาม 4 นัดแบบเป็นตัวสำรองด้วย แต่ทำได้ 1 แอสซิสต์
เบ็ดเสร็จแล้ว อาร์เจนติน่า ได้แข้งจาก “ม้าลาย” ไปติดทีมชาติสองราย ซึ่งพวกเขาก็เป็นตัวหลักทั้งสองคนและมีโอกาสลงสนามจนสุดปลายทางแน่นอน
ทีมชาติสหรัฐอเมริกา
เวสตัน แม็คเคนนี่ กองกลางสาระพัดประโยชน์อายุ 24 ปี เป็นตัวหลักของสโมสรและทีมชาติอย่างต่อเนื่อง โดยติดทีมชาติไป 38 นัด ยิงได้ 9 ประตู และแน่นอนว่าเขาเป็นกำลังหลักของทีมอีกยาวนานเลยทีเดียว โดยเขาลงเล่นเป็นตัวหลัก 4 นัด แต่ผลงานไม่เด่นอะไรมาก พาทีมได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ทีมชาติฝรั่งเศส
มีแข้งหนึ่งรายที่ติดทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่าปี 2018 นั่นก็คือ อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหากไม่เจออาการบาดเจ็บ
โดยทุกวันนี้เขาเล่นเป็นมิดฟิลด์เชิงรุกแบบเต็มตัว มีทักษะการเล่นที่แพรวพราว และ ร่างกายที่แข็งแกร่งสูงใหญ่ แน่นอนว่าเขาจะได้ยืนเป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสแน่นอน เพราะแข้งหลายรายเจออาการบาดเจ็บ ถอนตัวไปกันเพียบ
สุดท้ายแล้ว แม่จะต้องภูมิใจในตัวกองกลางรายนี้แน่นอน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเขามีอายุเพียงแค่ 27 ปี เพราะเจ้าตัวดังตั้งแต่ยังเป็นแข้งเยาวชน
แน่นอนว่าด้วยตัวเลือกของทัพตราไก่ที่จำกัด ทำให้เขาเป็นตัวหลัก แต่ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดดเด่นที่สุดในแดนกลาง มีส่วนสำคัญพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในตอนนี้
ทีมชาติเซอร์เบีย
ชาติที่ช่วงหลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงอย่าง เซอร์เบีย พวกเขาได้ดึงสองแข้งตัวหลักจากสโมสร ยูเวนตุส ไปร่วมทีมสองรายด้วยกัน
ซึ่งการันตีได้เลยว่าสองแข้งรายนี้ จะช่วยชาติได้มากโขในการลุยบอลโลกครั้งนี้ที่ประเทศกาต้าร์ แน่นอน เพราะกับสโมสรพวกเขาก็ต่างทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติจริงๆ
นั่นก็คือ ฟิลิป คอสติช กองกลางฝั่งซ้าย แข้งตัวรุกฝั่งซ้าย วัย 30 ปี ที่พัฒนาตัวเองจนได้มาอยู่ยอดทีมจากเมืองตูริน วิธีการเล่นและการเข้าหาบอลที่ชาญฉลาด จะทำให้เขาเฉิดฉายในรายการนี้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งเขาก็ได้ลงเล่น 2 นัด แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่นัก
ปิดท้ายกับ กองหน้าพ่อรูปหล่อราวเทพบุตร นั่นก็คือ ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าที่ได้รับการกล่าวขานว่าจะกลายเป็นแข้งระดับโลกเบอร์ต้นๆ ในตำแหน่งนี้
ทัวร์นาเม้นนี้จะเป็นการอัพค่าตัวของเขาและทำให้เขาได้รับการรู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นไปอีก มาดูกันว่า เขาจะยิงช่วยชาติจะมีส่วนร่วมกับชาติมากแค่ไหน เพราะสถิติตอนนี้ลงเล่นไปแล้ว 17 นัด ยิงไป 9 ประตู ส่วนผลงานฟุตบอลโลก ลงเล่น 2 นัด ด้วยอาการบาดเจ็บติดตัว แต่ยิงได้ 1 ประตู ก็ถือว่าไม่เลวร้ายนัก